Deutsches Technikmuseum Berlin 2

หลังจากหมดโซนเรือและเครื่องบิน ก็เดินย้อนกลับมายังเรื่องราวของเทคโนโลยีอื่นๆ บ้าง

โซนที่เป็นยานพาหนะอีกโซนหนึ่งก็คือโซนรถไฟ / รถราง

จะมีตัวรถไฟรุ่นต่างๆ ตั้งแต่อดีตมาตั้งให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

มีตั้งแต่รถไฟโบราณ สมัยที่ใช้วิธีเข็รไปตามรางไม้ไผ่เพื่อขนของ, รถไฟหัวจักรไอน้ำ จนกระทั่งมาถึงรถไฟฟ้า

 

รถไฟฟ้าคันแรก ผลิตโดยบริษัท SIEMENS & HALSKE ซึ่งปัจจุบันบริษัทนี้ก็คือ SIEMENS

ที่นั่งเป็นแบบนั่งข้าง คาดว่าในเวลานั้นรถคงแล่นไปอย่างช้าๆ

นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้ารุ่นต่างๆ เช่น รถนอนรุ่นแรก, รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ

DB รุ่นแรกสุด ซ่อนตัวอยู่บนรางจำลองอย่างคลาสสิค

มุมหนึ่งซึ่งเป็นส่วนกลางแจ้งของพิพิธภัณฑ์

ส่วนที่เป็นกังหันลม โซนหลังจากนี้จะเป็นวิวัฒนาการกังหันต่างๆ รวมถึงการจัดการน้ำ

โซนกลางแจ้งยังมีที่เป็นโรงบ่มไวน์จำลองอีกแห่ง แต่เนื่องจากปิดซ่อมบำรุง จึงเข้าไปดูไม่ได้

ส่วนโซนที่อยู่ภายในตึกอื่นๆ ได้แก่ โซนโรงงานอุตสาหกรรม จะมีของใช้และอุปกรณ์รวมถึงเครื่องจักรกลต่างๆ ที่พบเห็นในโรงงานทั่วไปมาจัดวางแยกประเภทอุตสาหกรรม, โซนยาและเคมีภัณฑ์ ก็จะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของยาและเคมีต่างๆ ทั้งชั้น, โซนภาพยนตร์และอะนิเมชั่น ก็จะเกี่ยวกับภาพเคลื่อนไหวตั้งแต่สมัยแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน, โซนกล้องถ่ายรูปและภาพโฮโลแกรม จะรวมวิวิฒนาการการผลิตภาพนิ่ง พัฒนาการของกล้อง รวมถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการบันทึกภาพอีกด้วย

เพิ่งรู้ว่ากล้องสมัยก่อนเป็นกล้องแบบสองตา

กล้องแบบโบราณ บันทึกภาพขาวดำ

เรียงลำดับกล้องพกพาตั้งแต่อดีตจนถึง (เกือบ) ปัจจุบัน

ส่วนอื่นๆ ที่อยู่ในอาคารได้แก่ ส่วนที่เป็นงานผ้าและคหกรรม การผลิต และวิทยาการต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องนุ่งห่ม รวมไปถึงการทำเครื่องประดับ โซนนี้ออกแนวอุตสาหกรรมทอผ้ากับคหกรรม จึงไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะรู้สึกคุ้นตามาก และอีกโซนหนึ่งใกล้ๆ กันก็คือโซนคอมพิวเตอร์ ซึ่งจำลองคอมพิวเตอร์สมัยแรกเริ่ม รวมถึงอธิบายวิธีคิดของโค้ดต่างๆ กว่าจะประมวลออกมาเป็นคำหรือภาพให้เข้าใจง่ายๆ

เสียดายมาที่มีโซนหนึ่งไม่ได้ไป นั่นคือโซนสเป็คตรัม โซนนี้น่าจะเกี่ยวกับแสง ซึ่งตอนนั้นได้เวลาที่ฉันต้องไปโรงเรียนแล้ว เลยพลาดไปหนึ่งโซน แถมเป็นโซนที่น่าสนใจสุดๆ ด้วย เหตุที่ยังไม่อยากโดดเพราะเพิ่งเป็นวันที่สองของคอร์สเรียน

ถึงอย่างนั้น Deutsches Technikmuseum Berlin ก็เป็นสถานที่ที่สนุก และเดินได้เพลินจริงๆ ขนาดฉันไปคนเดียวยังเพลิน ถ้าไปกับเพื่อนหรือครอบครัวต้องยิ่งสนุกแน่ๆ คล้ายๆ จะเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นะ แต่สำหรับฉัน ถ้าเรียกว่า “พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ประยุกต์” อาจจะใกล้เคียงกว่า เพราะสิ่งต่างๆ ที่จัดแสดงที่นี่ ล้วนแล้วแต่เป็นวิทยาศาสตร์ใกล้ตัวทั้งนั้น พ่อแม่หรือครูสามารถอธิบายให้เด็กฟังอย่างเห็นภาพได้ เพราะมีแบบจำลองและตัวอย่างให้เห็นตรงนั้นเลย ต่างจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ซึ่งผู้เข้าชมต้องใช้จินตนาการเพื่อเข้าใจอีกขั้น เพียงแต่ของเล่นให้เด็กและผู้ใหญ่ร่วมกิจกรรมมีไม่เยอะเท่าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง