København 4

หลังจากแยกกับคุณพี่สาวและน้อง N ฉันก็เข้าไปเก็บของในโฮสเทล

เนื่องจากแสงแดดยังไม่หมด เวลาสี่โมงเย็น ถ้าเป็นที่เมืองไทยหรือในยุโรปช่วงปลายปี คงเที่ยวที่อื่นต่อไม่ได้นอกจากเที่ยวกลางคืน แต่ฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าฤดูร้อน กว่าจะถึงกลางคืนก็ตอน 4 ทุ่ม ดังนั้นฉันจึงขอแผนที่ท่องเที่ยวจากโรงแรมเพื่อเที่ยวต่อ

ก่อนจะเข้าเรื่องเที่ยวของฉัน จริงๆ แล้วถ้าเริ่มฉายเดี่ยวตั้งแต่ตอนเช้า ที่โคเปนฮาเกนเขาก็มีทัวร์แบบที่น่าสนใจเหมือนกันนะ

นั่นคือ Free Walking Tour เป็นทัวร์เดินเที่ยวโดยมีไกด์อาสาที่พูดภาษาอังกฤษให้ข้อมูล โดย “ไม่เสียค่าใช้จ่าย” (แต่ต้องให้ทิปรึเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ)

ทัวร์นี้เหมาะสำหรับคนที่อยากแลกเปลี่ยนกับคนเดนมาร์คและนักท่องเที่ยวด้วยกัน นอกจากได้เที่ยวเป็นหมู่คณะแล้วยังได้เพื่อนใหม่หลายเชื้อชาติอีกด้วย โดยเฉพาะคนที่อยากพูดคุยกับหนุ่มสาวเอ๊าะๆ ของที่นี่ (คิดเอาเองว่าไกด์น่าจะเป็นวัยรุ่นที่อยากทำงานท่องเที่ยวและฝึกภาษา)

คราวนี้ฉันไม่ได้เข้าร่วม แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่คิดจะแบ็คแพ็คไปที่โคเปนฮาเกน

รายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ในเว็บเพจของทัวร์เลยค่ะ

ฉันคิดว่าน่าสนใจเหมือนกันนะ และถ้าไปโคเปนฮาเกนอีกคราวหน้า ต่อให้เป็นสถานที่ที่ฉันเคยไปมาแล้ว ฉันก็อยากจะลองเข้าร่วมดู น่าจะเป็น 3 ชั่วโมงที่ได้อะไรใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีทัวร์ฟรีอื่นๆ อีกด้วย ลองเช็คดูตามลิงค์เลยค่ะ

http://www.copenhagenfreewalkingtours.dk/

+++ ไม่รู้เมืองไทยมีแบบนี้รึเปล่าเนอะ องค์กรเยาวชนไกด์จิตอาสา ที่ไม่ใช่แค่เปิดโอกาสให้เยาวชนทดลองเป็นไกด์ แต่ยังได้ฝึกภาษาและได้แลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติ ทั้งยังได้เรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอีกด้วย

 

København 3

หลังจากกินมื้อเที่ยงที่ร้านใกล้ๆ กับพระราชวัง Frederiksborg Slot

คุณพี่สาวก็ขับรถพาไปยังอีกสถานที่ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของโคเปนฮาเกนเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าถ้าใครไม่ได้มาเยือนที่นี่ ถือว่ายังมาไม่ถึงโคเปนฮาเกน

กระนั้น ทั้งคุณพี่สาวและมิตรสหายอื่นๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ “ทำใจ”

น้องเงือกนั่งพับเพียบเรียบร้อยบนโชดหิน

สถานที่แห่งนั้นก็คือ… The Little Mermaid หรือรูปปั้นนางเงือกน้อยนั่นเอง

København 1

31 พ.ค. 2014

ยังไม่ถึงเวลาเที่ยวโคเปนฮาเกนอย่างเต็มรูปแบบ 🙂

เพราะวันนี้ฉันมีนัดกับพี่สาวที่น่ารัก คนรู้จักที่อยู่ในโคเปนฮาเกน

ตอนแรกเธอเสนอให้ฉันไปพักที่บ้านระหว่างเดินทางมาเดนมาร์ค แต่เมื่อฉันไตร่ตรองสถานการณ์ เนื่องจากเธอเองก็กำลังยุ่งกับการเตรียมงาน Thai Fest ฉันจึงคิดว่าอยากจะรบกวนให้น้อยที่สุด จึงจองที่พักและนัดเจอกับเธอวันงาน Thai Fest

ขอเล่าถึงที่พักก่อนดีกว่า

เนื่องจากงบน้อย ฉันจึงเลือกพักในโฮสเทลสไตล์เกสต์เฮ้าส์ อยู่ใกล้สถานีโคเปนฮาเกนมากแบบข้ามถนนแล้วถึงเลยทีเดียว สะดวกมากๆ ชื่อว่า “Copenhagen Backpackers Hostel”

การมาพักที่นี่ทำให้ฉันประทับใจกับการนอนโฮสเทลแบบรวมกับคนอื่น

คืนแรก ฉันมาอย่างเด๋อด๋า งงๆ งวยๆ พยายามมินิไมซ์การใช้พื้นที่แบบสุดๆ แถมคนที่นอนร่วมห้องอยู่แล้วกรนดังมาก กระนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาของฉันเท่าไหร่ อากาศเย็นก็หลับได้แล้ว

แต่คืนต่อๆ มา สมาชิกสลับสับเปลี่ยนกันไป

Nach Dänemark reisen

29 พ.ค. 2014

วันพฤหัสบดี… แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการที่เยอรมนี ฉันจึงวางแผนเที่ยวไกลๆ เอาให้คุ้มที่หยุด

ไปเดนมาร์คเสียเลย

จองตั๋วรถบัสไว้ โดยเข้าใจว่ามันน่าจะถูก แต่จริงๆ แล้วไม่เสมอไป เพราะเครื่องบินโลวคอสต์อาจถูกกว่าก็เป็นได้

กระนั้นการไปด้วยรถบัสครั้งนี้ก็ได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่

เพราะได้นั่งเรือด้วย!!!

แม้การเดินทางจะยาวนาน แต่ได้สัมผัสอะไรดีๆ จนรู้สึกคุ้มกับที่จ่ายเงิน

คราวนี้ใช้บริการรถบัสของ Eurolines

ขึ้นรถจากท่ารถ Berlin ZOB ช่วงบ่าย แอบตื่นเต้นเพราะวันนั้น U-Bahn กระแดะมาช้า (ปกติตรงเวลาตลอดจนฉันตายใจ) สายไป 2 นาที ทำให้พลาด S-Bahn ซึ่งต้องรอรอบต่อไปราว 10 นาที เมื่อใช้ App ดูการต่อรถที่เป็นไปได้แล้ว ยังไงก็ไม่ทันเวลารถบัสออก

สารภาพบาป… ออกช้าไป 1 รอบ เพราะมัวแต่ขัดหม้อ พอดีฉันทำแกงเขียวหวานให้คุณ C แล้วพออุ่นคราบดำติดหม้อเต็มเลย ครั้นจะทิ้งไว้ให้คุณ C ล้างก็เกรงใจ เพราะฉันไปหลายวัน เหมือนทิ้งภาระให้เขา เลยรีบขัดหม้อจนเกลี้ยง ทำให้ออกช้า

สุดท้าย ฉันจึงต้องรีบโบกรถแท็กซี่… เสียเงินไป 11 ยูโร