Dresden 4

แล้วพวกเราก็เดินข้ามสะพานไปยังฝั่ง Neustadt (เมืองใหม่)

#เอ็นทรีสาดรูป

บนสะพาน Augustusbrücke

Dresden 3

หลังจากกินอิ่ม กายอุ่น ออกจากร้านอาหารมา ท้องฟ้าช่างเป็นใจ

โธ่เอ๋ย… ครึ้มอยู่ได้ตั้งครึ่งค่อนวัน แต่สุดท้าย แดดก็ออกแล้วค่ะ

ฉันและเพื่อนก็เลยย้อนถ่ายรูปบริเวณนั้นมาอีกรอบ คราวนี้เดินวกไปทาง Brühlscher Garten ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของระเบียงเลียบแม่น้ำที่เรายังไม่ได้ยล

ขอเรียกเอ็นทรีนี้ว่า Dresden เวอร์ชั่นแดดเปรี้ยง (อยากใช้คำว่าฟ้าใส มันก็เกินใสค่ะ แดดจ้าจนตาหยี)

#มหกรรมสาดรูป

แดดมาแล้ววววว!!! มาแบบจัดหนัก แสบตามากมาย ไม่ได้พกแว่นกันแดดมาด้วย ซิกๆ

Dresden 2

ขอเรียกเอ็นทรีนี้ว่า Dresden เวอร์ชั่นฟ้าครึ้ม

ช่วงเช้า แดดไม่เป็นใจ เลยได้มาแต่ภาพสีหม่น #กระซิกๆ

ว่าแล้วก็… สาดรูป

เดินกันมาถึงบริเวณ Frauenkirche ค่ะ

Frauenkirche คือ โบสถ์พระแม่มารีนั่นเอง ฉันไม่ใช่คริสเตียน ตอนมายุโรปแรกๆ ก็จะสังเกตเห็นว่าไปที่ไหนก็เจอแต่ Frauenkirche ตามเมืองใหญ่ๆ เนื่องจาก Frau แปลว่าผู้หญิง ฉันเลยเข้าใจเอาเองว่าเป็นโบสถ์ที่มีแต่แม่ชี หรือเป็นคอนแวนต์รึเปล่า แต่จริงๆ แล้วการตั้งชื่อโบสถ์ที่นี่จะไม่เหมือนวัดไทยที่มีชื่อของใครของมันค่ะ Frauenkirche แปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Church of Our Lady หรือโบสถ์ที่สร้างอุทิศให้แด่พระแม่มารีนั่นเอง

ส่วน Kreuzkirche ที่เจอไปเมื่อเอ็นทรีที่แล้ว ก็ Church of Holy Cross ซึ่ง Kreuz แปลว่าไม้กางเขน

ทีนี้คงเดากันได้ใช่ไหมคะว่า Kirche ต้องแปลว่าโบสถ์แน่ๆ 555

*** แต่ Kirsche  แปลว่าเชอร์รี่นะคะ ออกเสียงเกือบคล้ายกัน ฉันเองก็เผลอพิมพ์ผิดอยู่บ่อยๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ 555

ดังนั้น เวลาเห็นชื่ออื่นแปลกๆ หน้าคำว่า Kirche ก็เดาได้เลยว่า น่าจะเป็นชื่อนักบุญที่ได้รับการสร้างโบสถ์อุทิศให้

Dresden 1

22 เมษายน 2015

เดรสเดนเป็นอีกเมืองในยุโรป ที่ฉันคิดว่าจะต้องมาเยือนสักครั้งให้ได้

เมื่อปีที่แล้ว ฉันนั่งรถบัสและรถไฟผ่านขณะเดินทางไปเชค ภาพอาทิตย์อัสดงที่นี่ยังตราตรึงอยู่ในใจของฉันอย่างเหนียวแน่น

(ขาไป Auf dem Weg nach Tschechien ขากลับ Mit der Bahn zurück)

และปีนี้ฉันกลับมาเบอร์ลินพร้อมกับความตั้งใจว่าจะมาเยือนเดรสเดนอย่างเต็มรูปแบบให้ได้

ก่อนอื่น เล่าถึงความสำคัญของเดรสเดนก่อนค่ะ

เดรสเดนนอกจากเป็นเมืองหลวงของรัฐ Sachsen (Saxony) แล้ว ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกเมืองหนึ่งของเยอรมนีมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรคและร็อคโคโคที่สร้างสรรค์ไว้มานานเกือบศตวรรษทำให้ที่นี่เคยเป็นศูนย์รวมของศิลปะวัฒนธรรมที่งดงาม รวมถึงศูนย์กลางการศึกษาและเศรษฐกิจด้วยค่ะ

ความเจ๋งของเดรสเดนไม่ใช่แค่ความเจริญรุ่งเรืองในอดีตเท่านั้นค่ะ

เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เดินทางผ่านเดรสเดน น้อง M เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาและอังกฤษระเบิดโจมตีเดรสเดนไม่เหลือ แต่ชาวเดรสเดนใจเด็ดมาก รวบรวมซากอิฐทีแต่ละก้อนมาคัดแยก ทำเครื่องหมายไว้เลยว่าก้อนไหนของบริเวณไหน แยกเป็นหมวดหมู่แล้วนำซากเหล่านี้ไปบูรณะคืนสู่สภาพเดิม

แน่นอนว่าไม่เดิม 100% หรอกค่ะ มีส่วนที่ใช้อิฐใหม่ด้วย ทำให้อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเดรสเดนดูกระดำกระด่าง บริเวณขาวๆ คืออิฐใหม่ ส่วนที่ดำๆ นั้นเป็นชิ้นส่วนเก่าที่หลงเหลือหลังจากถูกระเบิดนั่นเองค่ะ แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองนี้ไปแล้ว เรียกว่ากว่าจะกลับคืนสู่สภาพปัจจุบันได้ ต้องอาศัยความพยายามและความอดทนมากมายจนจินตนาการไม่ออกเลยทีเดียว

ประเทศที่แพ้สงครามมีจิตวิญญาณที่น่าหลงใหลฉะนี้เอง #โมเอ้มากๆ

นี่แหละที่เป็นมนต์ขลังทำให้ฉันตั้งมั่นว่าต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้

เดรสเดนเคยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโกด้วยนะคะ แต่เนื่องจากดันไปสร้างสะพาน Waldschlößchenbrücke ข้ามแม่น้ำ Elbe ทำให้เดรสเดนอยู่ในรายชื่อพื้นที่อันตราย และถูกถอดออกจากการเป็นมรดกโลกไปอย่างน่าเสียดาย (ถ้าดูในแผนที่เหมือนจะอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวนะคะ แต่จริงๆ แล้วเขตที่เป็นมรดกโลกของเดรสเดนครอบคุลมความยาวแม่น้ำถึง 20 กิโลเมตร)

และเป็นแค่ 1 ใน 2 ของมรดกโลกที่ถูกถอดชื่อออกไปด้วยนะคะ (อีกที่คือ Arabian Oryx Sanctuary) เป็นเรื่องน่าเศร้าของประเทศเยอรมนีก็ว่าได้เลยล่ะ

Mit der Bahn zurück

ชั่วเวลาสุดท้ายก่อนเซย์กู๊ดบายทูเชคเพื่อกลับเบอร์ลิน

เรามาถึงสถานี Central Station ของปราคกันอย่างเร่งรีบ

กระนั้นก็ยังมีเวลาพอให้ซื้อเบอร์เกอร์ขึ้นไปกินบนรถไฟเป็นอาหารกลางวัน

พอได้ที่นั่ง เราก็รีบกินมื้อกลางวันกันทันที

วิวสองข้างทางรถไฟนั้น สวยงามตั้งแต่ออกจากปราค แต่มีที่หนึ่งที่เห็นแล้วถึงกับตกตะลึง

จึงได้แชะภาพสวยๆ ตามมีตามเกิด

Bad Schandau จากทางรถไฟ

Auf dem Weg nach Tschechien

16 พ.ค. 2014

เดินทางไปเชคกับน้อง M

เราเดินทางด้วยรถบัสบริษัท Student Agency ของเชคจากการแนะนำของเพื่อนน้อง M ซึ่งบอกว่าถูกและดี

เป็นรถบัสที่น่ารักมาก มีคนขับรถ และพนักงานต้อนรับบนรถเหมือนรถทัวร์บ้านเรา

ระหว่างทางมีเครื่องดื่มบริการ เป็นช็อกโกแลตร้อน ชาร้อน กาแฟร้อน แล้วแต่จะสั่ง (แต่คนละแก้วนะ)

มีปลั๊กให้ชาร์จไฟ

มีหน้าจอตรงพนักด้านหน้า สามารถเลือกชมหนังได้ มีซับไตเติลให้เลือกด้วย ไฮโซมาก

สรุป… ไม่ได้นอน นั่งถ่ายรูปสองข้างทาง พอฟ้ามืดก็เปิดหนังดู