27 มีนาคม 2015
วันนี้เราไปเที่ยวหลักๆ กันแค่ที่เดียว คือ สวน Park Łazienkowski
จากที่พัก เรานั่งเมโทรมายัง Centrum แล้วต่อรถบัสที่ป้ายรถบัส Centrum 1
ขอย้อนกลับไปคืนก่อนหน้านั้น ระหว่างที่ฉันรอพวกพี่ๆ เคลื่อนทัพจากคาสิโนใน Mariott กลับที่พัก ฉันได้ถามทางไปสวนแห่งนี้กับพนักงานโรงแรมเอาไว้ก่อน พนักงานน่ารักมาก เสิร์ชข้อมูลหาให้ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วก็อธิบายให้ฟัง
จาก Centrum ไปยังสวน นั่งรถบัสสาย 131, 501, 519, 522, N31, N81 ไปลงที่ Spacerowa แล้วก็เดินเข้าสวนได้เลย
เมื่อมาถึง Centrum เราเดินหาป้าย Centrum 1 แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงทิศทางไหน
ทันใดนั้น รถบัสสายเดียวกับที่จะไปสวนก็ติดไฟแดงอยู่แถวๆ วงเวียน
ฉันเลยหน้าด้าน ข้ามถนนไปยังเกาะกลางใกล้ๆ ตัวรถ โบกไม้โบกมือให้คนขับ แล้วชูกระดาษโน้ตที่พนักงานโรงแรมเขียนมาให้
คุณลุงคนขับรถน่ารักมาก เห็นอีต่างชาติใส่โจงกระเบนป้ำๆ เป๋อๆ มาถามทางระหว่างรถติด จึงเปิดกระจกรถ อ่านกระดาษ แล้วบอกเป็นภาษาโปลิชว่า “ไปขึ้นตรงฝั่งนู้นเลย” พลางชี้ไปยังฝั่งที่ฉันควรจะขึ้น
แล้วก็ออกรถไป
ฉันขอบคุณคุณลุงจนแทบจเหลียวตามรถเลยทีเดียว
คุณลุงคนขับช่วยได้มาก ไม่ต้องเสียเวลาหาแระ พุ่งไปยังป้ายได้ทันใจ
รอเพียงไม่นาน รถก็มา พาเราไปถึงที่หมาย
วันนี้แหละ จิได้สักการะเสด็จพ่อโชแปง
น่าเสียดายที่พวกเรามากันตอนปลายฤดูหนาว สวนเลยดูแห้งๆ เหี่ยวๆ หิมะไม่มี ดอกไม้ใบหญ้าไม่มี ถ้ามาฤดูอื่นน่าจะตื่นตาตื่นใจกว่านี้
พระราชวัง Pałac Belwederski หรือพระราชวัง Belweder เป็นพระราชวังของกษัตริย์องค์สุดท้ายของโปแลนด์ เดิมพระองค์ใช้เป็นโรงงานผลิตเครื่องเคลือบ Porcelain ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังแห่งนี้รอดจากการจู่โจม คงโครงสร้างเดิมมาได้ถึงปัจจุบัน และตอนนี้ถูกใช้สำหรับประกอบพิธีการทางราชการสำคัญๆ ค่ะ
เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็มาถึง…
อนุสาวรีย์เสด็จพ่อโชแปง!!!
อนุสาวรีย์เสด็จพ่อโชแปงที่เห็นนี้ เป็นอันที่สองค่ะ อันแรกถูกกองทัพเยอรมันในวอร์ซอทำลายไปตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่โชคดีที่แม่พิมพ์รอดจากการทำลายมาได้ จึงสามารถสร้างใหม่ขึ้นอีกครั้ง
เดินเรื่อยๆ มาจนถึง Pałac Na Wyspie, Pałac Na Wodzie หรือ Pałac Łazienkowski ชื่อเรียกเยอะมากค่ะ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ Palace on the Water / Palace on the Isle ไม่ก็ตามชื่อสวนเลย Łazienki Palace
พระราชวังแห่งนี้เดิมทีสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนเพื่อเป็นเรือนสรงน้ำในสไตล์บาโรค แต่ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค
ที่นี่เคยถูกทหารเยอรมันเจาะผนังเป็นรูใหญ่ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่มีความเสียหายอื่นใดต่อตัวโครงสร้างอาคารเดิม
และทันใดนั้น!!! ฝนตกค่ะ!!!
พวกเรารีบหาที่หลบฝนกันจ้าละหวั่น
ฝนตกค่อนข้างหนักด้วยนะเออ
พอฝนปรอยๆ แล้ว เราก็คิดว่านั่งรถกลับเข้าเมืองกันดีกว่า
พวกเราเดินออกจากสวนไปยังป้ายรถบัสที่ใกล้ที่สุดค่ะ
ไม่ต้องถามนะคะว่ากลับถูกได้ยังไง ป้ายรถบัสที่วอร์ซอไม่เหมือนประเทศไทยค่ะ มีเส้นทางการวิ่งและตารางรถบัสให้ตามมาตรฐานสากล
กระนั้นเราก็ยังอุตส่าห์นั่งรถเลยที่หมายอยู่ดี กร๊ากกกกก
แทนที่จะลงป้ายที่มีสถานีเมโทร ดันเลยข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่ง ต้องเดินย้อนกลับมาซะงั้น
แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ก็ทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของวอร์ซอที่เราไม่ได้ตั้งใจมาค่ะ
Warszawska Syrenka หรือนางเงือกแห่งวอร์ซอ เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองวอร์ซอ ในตราประจำเมืองวอร์ซอจะเป็นนางเงือก (น้อย) ถือโล่และดาบอยู่บนพื้นหลังสีแดง สามารถพบเห็นรูปปั้นนางเงือกแห่งวอร์ซอได้หลายๆ จุดในเมือง แต่ฉันคิดว่า ที่นี่เท่สุดแล้วล่ะ
มาถึงที่สถานี Metro Centrum Nauki Kopernik ก็ถึงบางอ้อเล็กน้อยว่าทำไมสถานีนี้ถึงไม่ปรากฏในแผนที่ของฉัน นั่นเป็นเพราะสถานีใหม่ สะอาดสะอ้าน และดูทันสมัยมาก ไม่สิ ต้องบอกว่าใหม่ทั้งเส้นทาง บางจุดในสถานียังก่อสร้างตกแต่งไม่เสร็จด้วยซ้ำ
หลังจากถึงที่หมาย Centrum แล้ว พี่ๆ ก็แวะช็อปปิ้งกันตามอัธยาศัย จากนั้นเราก็แวะหามื้อบ่ายลงกระเพาะเสียที
สำหรับวันนี้ กินอาหารญี่ปุ่น (ซูชิ ฟิวชั่น) แถวๆ นั้นแหละค่ะ เป็นร้านที่อยู่อันดับต้นๆ ใน TripAdvisor เชียวล่ะ
ในวอร์ซอ ไม่สิ… ในโปแลนด์ มีร้านอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะทีเดียวล่ะ ดูๆ แล้วจะเยอะกว่าร้านอาหารพื้นเมืองด้วยรึเปล่าเนี่ย?
อาหารญี่ปุ่นที่นี่รสชาติไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ค่ะ แน่ล่ะ ฉันก็ต้องบอกว่า ไปกินที่ญี่ปุ่นอร่อยกว่าอยู่แล้วล่ะ 555
ดังนั้น ขออนุญาตไม่รีวิวนะคะ เฉยๆ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ค่ะ แก้หิวได้อย่างเดียว
เมื่อท้องอิ่ม ก็ต้องรีบจรลีกลับที่พักค่ะ เตรียมตัวไปดูคอนเสิร์ตในคืนนี้
ส่วนคอนเสิร์ตรีวิวไว้แล้ว ที่นี่ เลยค่ะ