เดินกลับเข้าสู่ใจกลางเมืองอีกครั้ง
ภายในตัวเมือง มีเอกลักษณ์ตรงที่ตัวอาคารจะมีสีสันสดใสเรียงรายกันเป็นแถบ
เท่าที่เดินในเมือง สาวๆ โปแลนด์แต่งตัวกันสวยๆ ทั้งนั้นเลย ดูมีสีสันและมีกิมมิคกว่าสาวๆ เยอรมัน
นอกจากนี้ สมเป็นเมืองที่มีคนเอเชียน้อยมากจริงๆ แทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวเอเชียเลย มีแต่ฝรั่ง
ตอนกลางวันเดินผ่านตรงนี้แล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นมีคนเดินถือดอกกุหลาบแจกคนผ่านไปผ่านมา และมีหนุ่มคนหนึ่งยื่นดอกไม้ให้ฉันแล้วบอกว่า “เธอสวยจังเลย ฉันให้ดอกไม้นะ”
ฉันก็อึ้ง… เอ่อ งง แต่… ไม่รับดีกว่า
เขาก็ถามว่าทำไมไม่รับ
ฉันกับน้อง M รีบเดินหนี
ขืนรับก็เสียเงินสิเจ้าคะ… อยู่ยุโรป ห้ามรับของแจกจากคนแปลกหน้าเด็ดขาด
ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่ท้องฟ้าที่โปแลนด์ไม่เหมือนท้องฟ้ายุโรปเอาเสียเลย
เหมือนท้องฟ้าเมืองไทยมากกกก ตั้งแต่เหยียบมาที่นี่ ทั้งที่สถาปัตยกรรไม่ใช่เอเชียเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่เมืองไทยอย่างบอกไม่ถูก พลบค่ำเร็วพอๆ กับเมืองไทยด้วย ทั้งที่ประเทศอื่นที่ฉันไปมาในช่วงเดือนนี้เขามืดตอนสามสี่ทุ่มกันหมด
แต่โดยส่วนตัว ฉันคิดว่าดีไซน์ของน้ำพุมันขัดกับทัศนียภาพอย่างบอกไม่ถูก
เอาล่ะ ได้ฤกษ์ท่องราตรีของสองสาวเสียที
เราต้องเดินไปขึ้นรถรางหน้าห้าง Galleria เพื่อไปยังอีกที่หนึ่งซึ่งไม่สามารถเดินไปได้
ทาง Tourist Information บอกเรามาว่า มีการแสดงแสงสีเสียงบนน้ำพุ เข้าชมฟรี เริ่มการแสดงตอนสองทุ่มครึ่ง เราจึงรีบบึ่งมาจับจองที่นั่งกันก่อน
อันที่จริงตรงที่เราไปนั้นอยู่ใกล้กับสวนญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นอีกที่ท่องเที่ยวหนึ่ง (ญี่ปุ่นอีกแล้ว… ตั้งแต่เดินเล่นมายังไม่เจอคนญี่ปุ่นเลยนะ เห็นแต่นักร้องที่ซ้อมคอนเสิร์ตนั่นแหละ)
เรานั่งรถรางใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงได้ บนรถมีผู้โดยสารคนหนึ่งพาน้องหมาขึ้นมาด้วย น้องหมาเป็นมิตรมาก เที่ยวทักทายคนไปทั่ว น่าร้ากกกกก ❤
ป้ายที่เราลงคือ Hala Stulecia หรือ Centennial Hall คือชื่อของสถานที่ที่เราจะไปเลยล่ะ
หลังจากน้ำพุเต้นระบำ ก็มีการจัดน้ำพุเป็นสกรีน แล้วฉายภาพบนน้ำพุ ด้วยความง่อยของกล้อง ไม่สามารถถ่ายภาพออกมาให้รู้เรื่องได้ เนื้อหาที่นำเสนอก็ได้แก่เรื่องเด่นๆ ของโปแลนด์ ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และฟุตบอล 🙂
การแสดงจบประมาณสี่ทุ่ม ฝนตกปรอยๆ เรานั่งรถกลับโรงแรม เตรียมตัวออกเดินทางไปอีกเมืองในวันรุ่งขึ้น
ปล. พักที่โฮสเทลเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมือง ชื่อ Friends Hostel ห้องพักสะดวกสบาย
ตอนเดินขาลากหาโรงแรมนั้น เจอะหนุ่มหล่อ 2 คนเดินข้ามถนนมาพร้อมกัน ปรากฏว่าพักโรงแรมเดียวกัน
แอบปิ๊งหนุ่มหล่อผมยาวมัดเป็นมวยด้านหลัง คือ… เห็นแล้วนึกถึงทอมมี่ฝุดๆ แต่ทอมหล่อกว่า
สองหนุ่มน่ารักมาก เห็นเราลากกระเป๋าเดินทางมาก็เปิดประตูให้ แล้วถามว่า ช่วยถือของมั้ย
โอยยยย หล่อแล้วยังมีน้ำใจอีก ละลายยยย
เลยชวนคุยนิดหน่อย เป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ยังวัยรุ่นอยู่เลย น่าจะพอๆ กับน้อง M ได้ล่ะมั้ง หล่อ ใจดี มี 2 คน น่าจิ้นอย่างแรงงงง (อ้าววว… คิดว่าจะจีบเองล่ะสิ ไม่มีทาง ฉันรักสามีของฉันคนเดียว)
เล่าไปเล่ามา กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวหล่อซะงั้น